ความสนใจของเด็ก คือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้อย่างมีความหมาย
เด็กๆ อนุบาลไปซื้อของที่ตลาดคุณปู่แล้วสังเกตเห็นอาคารข้างๆ (อาศรมศิลป์) รูปทรงดูแปลกตา แถมมีบันไดทางขึ้นที่สวยมากๆ จึงบอกคุณครูประจำชั้นว่าอยากเดินขึ้นไปดู คุณครูเล่าให้เด็กๆ ฟังว่าสถาบันอาศรมศิลป์เป็นที่ทำงานของพี่ๆ สถาปนิก ที่คอยออกแบบและก่อสร้างอาคารสถานที่ต่างๆ พวกเราต้องขออนุญาต และเตรียมตัวเองให้พร้อมก่อนถึงจะเข้าไปได้
เมื่อกลับมาที่ห้องเรียน คุณครูสังเกตว่าเด็กๆ บางคนยังพูดถึงการไปอาศรมศิลป์อยู่ จึงชวนเด็กๆ พูดคุยและได้ข้อสรุปร่วมกันว่า ทุกคนอยากจะไปอาศรมศิลป์ ไปเจอกับพี่ๆ สถาปนิกด้วยกัน คุณครูเล่าให้เด็กๆ ฟังต่อว่าคุณตาแบนเป็นเจ้าของพื้นที่อาศรมศิลป์ เราน่าจะลองเขียนจดหมายหาคุณตาแบนกันดู
เด็กๆ ช่วยกันคิดคำพูดให้คุณครูช่วยเขียนลงบนกระดาษ เริ่มตั้งแต่ข้อความนี้ส่งถึงใคร แนะนำตัวเอง ความตั้งใจของการเขียนจดหมายนี้เพื่ออะไร และตกลงกันว่าจะเขียนเบอร์โทรศัพท์ของคุณครูลงไปด้วย เพื่อเป็นช่องทางติดต่อกลับ ลงท้ายด้วยลายมือชื่อของทุกคน แล้วนำไปฝากที่อาศรมศิลป์ส่งให้กับคุณตาแบน
ต่อมาคุณครูได้รับโทรศัพท์จากอาศรมศิลป์ว่ามีจดหมายจากคุณตาแบนส่งถึงเด็กๆ คุณครูอ่านจดหมายจากคุณตาแบนให้เด็กๆ ฟัง ใจความว่า คุณตาแบนและพี่ๆ สถาปนิกที่อาศรมศิลป์ยินดีต้อนรับ ให้ทุกคนเข้าไปเยี่ยมคุยได้
“ไม่ส่งเสียงดัง ไม่วิ่งเล่น ไม่จับสิ่งของก่อนได้รับอนุญาต” เป็นข้อตกลงร่วมกันของเด็กๆ ในการไปอาศรมศิลป์ เมื่อถึงวันเวลานัดหมาย เด็กๆ ต่างตื่นตาตื่นใจที่ได้เจอกับคุณตาแบน ได้พูดคุยกับพี่ๆ สถาปนิกที่อาศรมศิลป์สมความตั้งใจ
กลับจากอาศรมศิลป์ คุณครูชวนเด็กๆ นั่งล้อมวงสะท้อนความรู้สึก เด็กๆ รู้สึกดีใจ ภูมิใจในตัวเอง และอยากขอบคุณคุณตาแบนและพี่ๆ สถาปนิก จึงชวนกันว่าครั้งหน้าจะเขียนจดหมายและทำอาหารไปขอบคุณ
การไปเยี่ยมเยือนสถาบันอาศรมศิลป์ในครั้งนี้ เป็นโอกาสที่เด็กๆ ได้ฝึกการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่น ด้วยการดูแลตนเองไม่ให้รบกวนผู้อื่น รับรู้ความหมายของการสื่อสารผ่านการเขียนจดหมาย เห็นความสำคัญของการใช้ภาษาที่บอกเล่าความต้องการ ความคิด ให้ผู้อื่นรับรู้ได้ เรียนรู้ที่จะเป็นผู้รับและผู้ให้ เป็นการเรียนรู้ที่เกิดจากความอยากรู้อย่างจริงใจของเด็กๆ เรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิต
เด็กทุกคนมีความกระหายใคร่รู้อยู่เป็นธรรมชาติ หากครูและผู้ใหญ่ใส่ใจ มองให้เห็นถึงความอยากเรียนรู้ และใช้ความอยากความต้องการภายในของเด็กเองนำไปสู่การเรียนรู้ จะทำให้เกิดการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์จริงที่หลากหลาย ทำให้ครูเห็นธรรมชาติของเด็กแต่ละคนชัดเจนขึ้น และสามารถช่วยต่อยอดการเรียนรู้ได้อย่างสอดคล้องกับเด็กแต่ละคน เป็นประสบการณ์ที่เด็กและครูจะเรียนรู้ร่วมกันไปอย่างมีความหมาย
—
“เรื่องเล่าจากห้องเรียน” โดย ครูองุ่น-ฉัตรชณา เก้าพัฒนสกุล ครูกิฟท์-ปิยะดา พิชิตกุศลาชัย ครูแดเนียลา-แดเนียลา เจิง ฝ่ายอนุบาล โรงเรียนรุ่งอรุณ