พิธีถวายชัยมงคล ๕ ธันวา มหาราช
ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๗ โรงเรียนรุ่งอรุณและสถาบันอาศรมศิลป์ ร่วมกันจัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๗ พรรษา ๕ ธันวามหาราช พุทธศักราช ๒๕๕๗ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย โดยมีคุณครูสุนิสา ชื่นเจริญสุข (คุณครูโม) ผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นประธานในพิธี นำถวายชัยมงคล
“พ่อของฉันมักมีความหมายกับฉันเสมอว่าเป็นคนที่อยู่เคียงข้างเราตลอดเวลา ไม่ว่าจะตอนไหน ฉันทำการบ้านจนดึกแค่ไหน พอหันกลับมาอีกทีก็เหลือเพียงพ่อคนเดียวที่ยังไม่หลับ เอาแต่รอคอยเพื่อที่จะหลับพร้อมฉัน ยกเว้นบางครั้งที่ไม่สบาย แต่ฉันก็ไม่เสียใจ เพราะฉันเข้าใจ ดูไปแล้วก็เหมือนกับฉันเป็นของรักของหวงที่สุดของพ่อ จนต้องเฝ้ามันไว้จนกว่าของสิ่งนี้จะทำการบ้านเสร็จ พ่อชอบทำตามความคิดเห็นของลูก ฉันคิดว่าฉันโชคดีมากที่เกิดมาแล้วมีพ่อที่เข้าใจลูก ทุกครั้งที่ฉันมีความทุกข์แล้วมาเล่าให้พ่อฟัง พอเล่าเสร็จก็ได้ยินคำพูดที่ว่า พ่อเข้าใจ เพราะพ่อก็เคยเป็นเด็กมาก่อน หลังจากนั้นพ่อก็เล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ตอนเด็กให้ฟัง มันสนุกมาก ทำให้ฉันคลายความทุกข์นั้นได้ ฉันจึงอยากจะขอบคุณพ่อที่ทั้งอยู่เคียงข้างฉัน คอยสอนและแบ่งปันสิ่งใหม่ๆ ให้ฉัน และคอยช่วยเหลือปกป้องฉัน ฉันจะขอตอบแทนพ่อโดยที่จะไม่ทำให้พ่อเสียใจและผิดหวัง ขอบคุณพ่อมากค่ะ” บทความเรื่อง พ่อของฉัน โดย ด.ญ.ชุติกาญจน์ กนกกันทรากร (เอิร์น) ชั้น ป.๕/๓
“เพราะฉันเป็นลูกคนเดียว พ่อจึงยอมทำทุกอย่างเป็นเพื่อนฉันตั้งแต่เด็กๆ ไปว่ายน้ำ ตีแบด และเล่นอะไรต่อมิอะไรอีกมาก ฉันมีพ่อเป็นเพื่อนเล่นเพียงคนเดียว เราสองคนสนิทกันจนเหมือนเพื่อน นั่นทำให้พ่อมักจะบอกฉันบ่อยๆ ในหลายปีมานี้ว่า ฉันมีนิสัยเหมือนพ่อ บางทีอาจเหมือนจนเกินไป เหมือนจนทำให้ฉันกับพ่อหงุดหงิดใส่กันบ่อยๆ แม้ทุกครั้งเมื่อฉันกับพ่อตึงใส่กัน ฉันก็จะวิ่งหนีไปหาแม่อยู่เสมอ แน่ล่ะ ก็ในบ้านเรามีกันแค่สามคน ถ้าไม่หาแม่ก็ไม่รู้จะไประบายกับใครแล้ว แต่หลังจากวันนั้น วันที่แม่จากไป พ่อบอกว่า ขอให้แม่ไม่ต้องห่วงอะไรอีก และพ่อสัญญาว่าจะดูแลฉันให้เป็นคนดี เพียงเท่านี้ระหว่างฉันกับพ่อมันก็เหมือนมีสัญญาสงบศึกเกิดขึ้นทันที พ่อแทบจะไม่เคยหงุดหงิดใส่ฉันอีกแล้ว ส่วนฉันเองอาจมีบ้าง แต่ก็น้อยเต็มที ฉันว่าพ่อเองก็คงรู้สึกเหมือนกับฉันว่าเราเหลือกันแค่สองคน พ่อทำทุกอย่างให้ฉันมีความสุขและเติบโตอย่างเข้มแข็งไปพร้อมๆ กัน อะไรที่ฉันต้องการและพ่อทำให้ได้ พ่อไม่เคยขัด แม้มันจะทำให้พ่อลำบากหรือเป็นห่วงก็ตาม แล้วอะไรที่พ่อมองว่าฉันควรรู้ ควรทำเป็น พ่อจะบอก จะสอน พ่อคงคิดว่าเมื่อวันหนึ่งที่พ่อไม่อยู่ ฉันจะต้องเติบโตต่อไปให้ได้ สำหรับฉันสิ่งที่พ่อทำคือคำว่าให้เสมอมา พ่อให้ทุกอย่าง ให้ชีวิต ให้ความรู้ ให้ความสุข ให้จนฉันอยากจะบอกว่า ไม่ต้องทำให้ฉันมากขนาดนี้ก็ได้ คุยกับฉันบ้างก็ได้ รำคาญบ้างก็ได้ แต่ฉันก็รู้ว่าพ่อคงจะไม่ทำ เพราะพ่อรักฉัน และมันคือความรักที่มีให้กันเสมอมาตั้งแต่วันที่ฉันเกิด สุดท้ายฉันขอขอบคุณ ขอบคุณทุกอย่างที่ให้กันมาโดยตลอด และขอสัญญาว่าจะเป็นคนดี เพื่อไม่ให้พ่อต้องผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ ขอบคุณมากๆ ค่ะ” บทความเรื่อง “พ่อของฉัน” โดย นาวสาวสาริศา เลิศวัฒนากิจกุล (เฟอร์) ชั้น ม.๕/๑
ภาพถ่ายโดย : นายภูวิศ สุภัณวงศ์ นักเรียนชั้น ม.๖/๑ (Guy Phuwit Supanwong)