พรปีใหม่จากหลวงพ่อสงบ กุสลจิตฺโต
วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๙ ผู้บริหาร ครู พนักงาน ผู้ปกครอง และนักเรียน โรงเรียนรุ่งอรุณและสถาบันอาศรมศิลป์ ร่วมทำบุญตักบาตรหลวงพ่อสงบ กุสลจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดป่าสุขใจ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยพระสงฆ์และสามเณร เนื่องในวาระส่งท้ายปีเก่า ต้อนไปรับปีใหม่ ๒๕๖๐ ที่กำลังจะมาถึง ขอนำพรปีใหม่จากหลวงพ่อสงบ มาแบ่งปันเพื่อเป็นพรปีใหม่แด่กัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ
“ปีใหม่ถ้าพูดภาษาของโลก พูดให้สละสลวย สุขสันต์นะ ปีเก่าก็ทิ้งไป ของไม่ดีทิ้ง ปีใหม่คว้าสิ่งที่ดีนะ ให้เจริญรุ่งเรืองนะ เหตุผลอยู่ที่ไหน อยู่ที่กระทำของใจของเรานี้ มันไม่ได้อยู่ที่ปีใหม่ ปีเก่า กิเลสและธรรมอยู่ที่ไหน ผิดและถูก โง่ ฉลาด โกรธ เกลียด สุข ผู้รับรู้รับทราบผู้บรรจุก็คือใจดวงนี้
สุขก็สุขที่ใจ ทุกข์ก็ทุกข์ที่ใจ แค้นก็แค้นใจ หนักก็หนักใจ อะไรลงใจหมด จะตายก็ใจจะขาด แต่ใครย้อนกลับมาเรียนรู้ใจบ้างว่าเป็นแบบไหน แล้วใจดวงนี้สามารถอยู่ใต้อาณัติหรือเป็นใจของตัวเองไหม เวลาโมโห เราไม่อยากโมโห เราอยากจะหยุด ไม่อยากให้มันทุกข์ แต่มันบังคับได้ไหม ถ้าเป็นใจของเรา ทำไมมันสั่งไม่ได้ เราก็วิ่งหาแต่ความสุข ตามองไป เสือกไสออกไป หูได้ฟัง เคลื่อนไหวไปมา เพื่อจะนำพาไปหาความสุข แต่ทำไมไปสัมผัสสัมพันธ์ มันรับมาแต่ทุกข์ สิ่งที่บรรจุก็คือใจ
พระองค์ท่านถึงได้สอน ณ เดี๋ยวนี้ที่เรายังไม่รู้จัก ถึงย้อนกลับมาเรียนเรา ณ เดี๋ยวนี้จิตใจของเรา จริตนิสัย ความรู้ในใจมันมีอะไร นี่คือความจริงที่ใจเรามี พอเรารู้แล้วมันไม่คิดอะไร ส่วนมากจริตนิสัยมันขึ้นอะไรก่อน ถ้าเป็นมงคล มันก็เป็นผลของงานของใจที่มีสมบัติ นำพาออกไปพูดไปทำกับความดีงาม เท่ากับจิตใจดวงนี้มีสมบัติ คืออริยทรัพย์ นำพาเราไปทำสิ่งที่มีประโยชน์ มีค่า
ปีใหม่ ปีเก่า ถ้าความรู้เรา นิสัยจริต มันยังเหมือนเดิม อันนั้นก็เป็นชื่อ ก็เหมือนเรานอนเมื่อวานนี้เป็นอย่างไร ตื่นขึ้นมาถ้าเราไม่แก้ไข มันก็ใจดวงเดิมนี้แหละ ความรู้เหมือนเดิมนี้แหละ ฉะนั้นย้อนกลับมาหาตัวเองนะ มาเรียนมารู้อะไรควรแก้ไขปรับปรุง นี่เหตุและผล ความเจริญและเสื่อม จากการตัดสินใจของใจดวงนี้ จะทำดี ไม่ดี ความคิดดี ไม่ดี มันมีอยู่นะ แต่ผู้ไปรู้และตัดสินใจคือใจดวงนี้ จะนำพาออกไปกระทำคือกรรมอะไร จิตดวงนี้ ผิดหรือถูก ก็เป็นสมบัติของจิตดวงนี้
ถึงว่าศาสนธรรมมีประกาศออกมา พระพุทธเจ้าตรัสรวมลงมา ก็มีแต่ความจริงเท่านั้น ทำดี ละชั่ว ตรัสออกมานี่ความจริงล้วนๆ ที่มันเป็นอยู่
คติที่นำพาใจ เหมือนคติของทางโลกที่ออกดำเนิน แต่คติของธรรม คือเรื่องของมรรคเป็นแบบไหน เราถึงมาทบทวน มาไตร่มาตรอง จิตใจ จริตนิสัย หรือความรู้ของใจ พอใจอะไร มันมีสมบัติมากน้อยเท่าไร มันเป็นสมบัติของฝ่ายไหน ฝ่ายนำความเจริญหรือฝ่ายต่ำ นั่น จริตนิสัย หรือสิ่งที่มันเป็น เราจึงย้อนกลับมาทบมาทวน แล้วก็แก้ไขปรับปรุง หรือเพิ่มเติมขึ้นมา นี่คือว่าใหม่หรือเก่า ใหม่-เก่าไม่สลักสำคัญ แต่ให้เห็นความหมายของใหม่ของเก่า ถ้าของเก่ามีค่า เป็นความรู้ทิฏฐิที่มีค่าเป็นธรรม แม้เห็นคนอื่น ของเราไม่มี เห็นคนอื่น นั่นของใหม่ นำเข้ามาเป็นสมบัติ ทั้งใหม่ทั้งเก่า ขอให้เห็นว่าสาระที่มีอยู่ในใจของเรา มันมีค่ามีประโยชน์นั่นเอง แต่ถ้าอันไหนเป็นโทษ สิ่งนี้เราควรรักษาหรือควรกระทำไหม หรือจะตัดทอนออกไป มีเท่านั้นล่ะ นั่นล่ะ ทำดี ละชั่ว เหตุและผล ถูกก็ถูก ผิดก็ผิด ทุกขณะจิตที่ตัดสินใจก็จะเป็นสมบัติของจิตใจตรงนั้น
วันปีใหม่ยังไม่ถึงก็พูดไว้ก่อน ขอให้คติ กลับมาทำความดี สิ่งที่แก้ไขที่สุดก็ปัจจุบันนั่นล่ะ ปัจจุบันขณะ ถ้าเราทำสิ่งที่แก้กรรม ไม่ใช่แก้ที่ไหน เริ่มทำกรรมที่ถูกต้องขณะนี้ ไม่ต้องกังวลกับอดีตว่ามันจะเป็นอย่างไร เริ่มทำแต่ความถูกต้องๆๆ นั่นสติปัญญา อนาคตจะก้าวไปเพราะความถูกต้อง จะกังวลอะไรกับอนาคต ทำเดี๋ยวนี้มันเสร็จ พอก้าวไปจะทำอันอื่น สิ่งที่เสร็จแล้วก็เป็นอดีตที่สมบูรณ์ แต่สิ่งที่เราแก้ไม่ได้ คือกังวลอดีตกับอนาคต ไม่อยู่ปัจจุบัน จิตใจก็วนอยู่อย่างนี้ แต่มันไม่รู้จัก พอรู้จักตัวเองแล้ว ปฏิบัติสิ่งที่ถูก นี่คือควบคุมในการจะไปจะมา แล้วก็มั่นใจว่าจะไปแบบมืดหรือสว่าง เหตุผลคือใจดวงนี้นั่นเอง ปัจจุบันเท่านั้นเอง ทำความดีเท่านั้นเอง แต่หลักเกณฑ์ก็คือศีลธรรมนั่นล่ะที่นำพา ขออนุโมทนากับทุกคนนะ”