KMรุ่งอรุณ : ครูต้องวางใจว่าการเรียนรู้เป็นของนักเรียน
เรื่อง : ครูอดิเรก สมบัติวงค์
ครูโครงงานบูรณาการ มัธยม โรงเรียนรุ่งอรุณ
ถึงอดิเรกน้องรัก
ฉันมีเรื่องดีๆ ที่ฉันได้เห็นพัฒนาการของนักเรียนในห้องเรียนชั้นมัธยม ๓/๑ ที่ฉันเป็นครูประจำชั้นแล้วอยากจะมาเล่าให้เธอฟัง
เมื่อปีการศึกษาที่ผ่านมา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จะต้องจัดงานหยดน้ำแห่งความรู้ในหัวข้อ “แลปักษ์ใต้” ซึ่งมีนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งจำนวน ๔ คน ที่ชอบการฟ้อนรำ เลือกเรียนรู้การรำ “มโนราห์” ศิลปวัฒนธรรมภาคใต้ นักเรียนไปครอบครู เรียนรู้กับครูมโนราห์จากสิงหนคร ที่ฉันเชิญมาสอนถึง ๗ ครั้ง สนใจถึงขนาดถ่ายวิดีโอการเรียนไว้ และฝึกซ้อมกันเองอย่างตั้งใจ แม้จะเป็นเรื่องยากและต้องฝึกหนัก จนปวดเมื่อยไปทั้งตัว แต่นักเรียนก็มีใจสู้ อดทน ไม่ท้อถอย นอกจากนั้นเพื่อนๆ ในกลุ่มก็รู้สึกรักกันมากขึ้นเพราะผ่านความลำบากมาด้วยกัน ฉันเองก็เข้าไปไต่ถาม พูดคุยกับพวกเขาเรื่องการฝึกซ้อมอยู่บ่อยๆ และได้เห็นมาตลอดว่าพวกเขาใส่ใจในการฝึกซ้อมมาก
ในการแสดงมโนราห์ในงานหยดน้ำแห่งความรู้ นักเรียนต้องการแต่งกายอย่างมโนราห์ภาคใต้ทุกประการ จึงมาปรึกษาฉัน เรื่องค่าชุดและเครื่องประดับซึ่งนักเรียนจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ฉันไม่ได้บอกไปว่าพวกเขาต้องทำอย่างไร เพราะฉันรู้ว่า ถ้าฉันรีบบอกไป นักเรียนต้องคิดว่าเป็นคำสั่งของครูอาจเกิดการต่อต้าน เหมือนอย่างงานหยดน้ำฯ ในเทอมที่ ๑ ที่ฉันเคยมีความคาดหวังสูง อยากให้งานสำเร็จ จึงล้อมกรอบให้นักเรียนทำตามสคริปต์ที่เขียนที่ซ้อมกันไว้ จึงเหมือนฉันไม่ไว้ใจพวกเขา พวกเขาจึงไม่รู้สึกว่างานหยดน้ำฯเป็นของพวกเขา หากแต่เป็นงานของครู พวกเขาเลยไม่มีกำลังใจทำงาน และต้องการแสดงออกถึงการต่อต้านครู ถึงกับไม่ยอมทำงาน ปล่อยให้งานเสียหาย จนครูรู้สึกหน้าแตกไปกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ครั้งนี้ฉันได้พูดคุยกับนักเรียนด้วยการตั้งคำถาม ตะล่อมไปเป็นขั้นเป็นตอนว่าพวกเขามีเป้าหมายอย่างไร ทำไมจำเป็นต้องใช้ชุดแสดงจริง คิดอย่างไรถ้าจะแสดงด้วยการใส่ผ้าแดง ไม่ต้องใส่ชุดโนรา เพราะจะได้ไม่มีค่าใช้จ่าย นักเรียนตอบว่า มโนราห์ที่เขาฝึกมาเป็นภูมิปัญญาอันทรงคุณค่าของชาวปักษ์ใต้เพื่อแสดงถึงรากเหง้าและความภาคภูมิใจในแผ่นดินบ้านเกิดของคนปักษ์ใต้ ดังนั้นจึงต้องแสดงออกมาให้สมน้ำสมเนื้อกับความเป็นชาวปักษ์ใต้
พวกเขาเห็นในคุณค่าของการแสดงโนราจริงๆ เขายืนยันว่า ”หนูไม่ยอม” ฉันจึงถามต่อไปว่าแล้วจะหาทางแก้ไขอย่างไร พวกเธอมีต้นทุนอะไรอยู่บ้าง พวกเขาช่วยกันคิดหลายๆ อย่าง จนได้แนวทางว่าพวกเขาต้องหาทุนด้วยตนเอง เลยไปคุยหว่านล้อมเพื่อนๆ ทั้งห้องเดียวกันและห้องอื่นๆ ให้เห็นว่างานนี้เป็นงานหยดน้ำฯ ของม.๓ ไม่ใช่แค่ของกลุ่มพวกเขา เพื่อนๆ ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี มาร่วมร้องเพลง แสดงดนตรีเดี่ยว และรำมโนราห์ที่โรงช้าง ปรากฏว่าเพียงแค่ ๓๐ นาที นักเรียนรีบวิ่งมาบอกครูว่าหาเงินได้ถึง ๓,๘๖๐ บาท สามารถนำไปเป็นค่าเช่าชุดแสดงโนราได้ และพอเป็นค่าเช่าเครื่องขยายเสียงที่ต้องเช่ามาอีกด้วย
เมื่อถึงวันงานหยดน้ำ ทุกคนก็ต้องตกตะลึงกับความสามารถของนักเรียนทั้ง ๔ คนนี้ พวกเขารำโนราได้อย่างสวยงาม สมบูรณ์ คำตอบทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า เขารู้สึกว่างานหยดน้ำฯ เป็นงานของเขา เขาเป็นเจ้าของการเรียนรู้เอง เขาจึงลุกขึ้นมาจัดการกับสิ่งที่เขาชื่นชอบด้วยตัวของเขาเอง ลุกขึ้นมาแก้ปัญหากันเอง และจากการที่พวกเขามีโอกาสเรียนรู้ด้วยการฝึกรำมโนราห์ด้วยตนเอง เผชิญและผ่านปัญหาอุปสรรคมามาก ประกอบกับครูพาย้อนมองคุณค่าของสิ่งที่ตนได้เรียนรู้บ่อยๆ จึงทำให้นักเรียนเกิดจิตใจที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมา ในขณะที่ฉันเองก็ไว้ใจพวกเขา แม้จะแอบมีความคาดหวังอยู่เหมือนกัน แต่ได้อดทนให้เขาแก้ไขปัญหาของเขาเอง ไม่ได้บอกให้เขาทำตามความคิดของครู
เมื่อถึงตรงนี้ ฉันได้เรียนรู้ว่า ครูต้องวางใจว่าการเรียนรู้เป็นของนักเรียน นักเรียนจะแสดงศักยภาพได้เต็มที่ทั้งในการเรียนรู้ และการแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยตนเอง หากครูมีความอดทน ฟังนักเรียนด้วยใจที่ใคร่ครวญ และลดความคาดหวังลง