รอบรั้วรุ่งอรุณ

สืบสานพระพุทธศาสนา

เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาที่จะเวียนมาบรรจบครบรอบในวันที่ ๑๖ และ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๒ นี้ โรงเรียนรุ่งอรุณและสถาบันอาศรมศิลป์ ได้จัดพิธีถวายเทียนพรรษาที่ชาวชุมชนรุ่งอรุณและสถาบันอาศรมศิลป์ ร่วมกันหล่อขึ้นจำนวน ๒ ต้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ถวายผ้าอาบน้ำฝน เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้นำผ้านี้ไปใช้ในช่วงจำพรรษาตามพุทธบัญญัติ รวมทั้งได้ร่วมกันนำข้าวสารอาหารแห้งมาถวายเป็นสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน ๙ รูป จากวัดยายร่ม เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังที่เคยประพฤติปฏิบัติกันมาตลอดระยะเวลาหลายปี

ในครั้งนี้พระคุณเจ้าได้สวดเจริญพระพุทธมนต์บทชัยมงคลคาถา ซึ่งเป็นเรื่องราวของพระพุทธเจ้าที่ทรงเอาชนะหมู่มารด้วยเมตตา พระองค์ทรงทำเป็นแบบอย่างให้กับเราชาวพุทธว่า การที่จะชนะคนอื่น หรือแม้แต่ชนะตัวเอง ต้องใช้เมตตา ถือเป็นชัยชนะอันสูงสุด

พระมหาวิเชียร ปัญญาวโร ได้กล่าวสัมโมทนียกถาเพื่อเป็นเครื่องเตือนสติปัญญาแก่ชาวโรงเรียนรุ่งอรุณและสถาบันอาศรมศิลป์ ใจความตอนหนึ่งพระคุณเจ้าได้กล่าวถึง “ความกตัญญูกตเวทิตาของพระพุทธองค์” ขอนำมาแบ่งปันแก่กัลยาณมิตรทุกท่าน ดังนี้

“…เมื่อเสวยวิมุตติสุข สุขอันเกิดจากการหลุดพ้นแล้วนั้น พระพุทธเจ้าประสงค์จะบำเพ็ญพุทธกิจ คือกิจของพระพุทธเจ้า พระองค์ได้นึกถึงอาจารย์คนแรกที่สอนให้ได้บรรลุฌานสมาบัติ ๘ คือ อาฬารดาบส และอุทกดาบส แต่ว่าอาจารย์ทั้งสองได้สิ้นชีวิตไปเสียก่อนแล้ว นี่คือคุณธรรมขององค์สมเด็จบรมศาสดา ตรัสรู้แล้วอยากที่จะทดแทนคุณของอาจารย์ แม้ว่าฌานสมาบัติ ๘ ไม่ใช่หนทางตรัสรู้ แต่อริยมรรคมีองค์ ๘ นั้นเป็นหนทางตรัสรู้ อยากที่จะทดแทนคุณอาจารย์ อันนี้คือคุณธรรมของศิษย์ อันไหนที่ทำไปแล้ว ครูอาจารย์ไม่สบาย นักเรียนก็ไม่ควรทำ อันไหนทำไปแล้วครูอาจารย์ท่านปีติ อิ่มเอิบเบิกบานใจ นักเรียนควรทำ อันไหนที่ทำไปแล้วทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่สบายใจ ไม่ปลื้ม ไม่ยินดี เกิดความทุกข์ในใจ อันนั้นลูกหลานบุตรธิดาไม่ควรทำ แต่ถ้าอันไหนที่ทำไปแล้ว พ่อแม่ปลื้ม พ่อแม่ยินดี พ่อแม่มีความสุข อิ่มเอิบในใจ อันนั้นควรทำ นี่คือความกตัญญูกตเวทีของผู้ที่เป็นศิษย์…”

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านมา ณ ที่นี้