งานเสวนาธรรมและอบรมเจริญสติที่ รร.รุ่งอรุณ
งานเสวนาธรรมและอบรมเจริญสติ เดือนมิถุนายน ๒๕๕๖ ณ โรงเรียนรุ่งอรุณ
เมตตาสาธยายธรรมเรื่องบุญกิริยาวัตถุ ๑๐
การดับทุกข์และเหตุเกิดทุกข์แก่นักปฏิบัติ เทคนิคการรู้เท่าทันกายและจิต
ในเรื่องของความขัดแย้งทางกายและจิต อานิสงส์แห่งการแผ่เมตตา ๑๑ ประการ
หลวงพ่อมหาดิเรก พุทธยานันโท
วิทยากร :
๑. อาจารย์สุภีร์ ทุมทอง
๒. อาจารย์ธีรยุทธ เวชเจริญยิ่ง
๓. รศ.ประภาภัทร นิยม
๔. หลวงพ่อมหาดิเรก พุทธยานันโท ผู้นำเสวนา วิดีโอบันทึกการเสวนาธรรม…คลิก
การเจริญสติ สมถะและวิปัสสนา
วิปัสสนาต้องรู้สึกเอา ไม่ใช่คิดเอา
… ภาษามนุษย์ไม่สามารถใช้อธิบายสภาวธรรมเป็นปัจจุบัน
… ความเห็นถูกต้องถูกตรงเป็นสัมมาฐิติ
… สมมุติบัญญัติ คือของจริงที่มีอยู่จริงแต่ไม่จริง
… ปรมัติบัญญัติ คือของจริงทึ่มีอยู่จริงแต่จริง
… การเจริญวิปัสสนาต้องรู้สภาวธรรมที่เกิดขึ้นที่กายกับใจเท่านั้น
งานที่ได้รับมอบหมายในการบริหารจิต
คือให้สังเกต เฝ้าดู ตามรู้ การเคลื่อนไหว
ในความรู้สึกของเวทนาทางกายตั้งแต่
หยาบ (ความรู้สึกหนัก) กลาง (สบาย) ละเอียด (เบา) ตามความเป็นจริง
จงปฏิบัติธรรมเหมือนเข็มวินาที
… จงทำด้วยจิตตั้งมั่น
… วิปัสสนาคือการเรียนรู้การทำงานของกายและใจ
… จงทำตัวเป็นคุณนาย อย่าทำตัวป็นยายแจ๋ว
… ให้รู้ตามจริงในสิ่งที่ปรากฎ
… รู้สึกตัวอยู่ อกุศลครอบงำจิตไม่ได้ กิเลสเข้าไม่ได้
… ธรรมชาติที่เข้าไปรู้สึกการเคลื่อนไหวคือจิต
… หากเพ่งสภาวะจะกลายเป็นสมถะ ฯลฯ
สติเปรียบเสมือนฉนวนกั้นเวทนา
ไม่ให้ความทุกขเวทนาของรูปเข้าสู่นามได้
อาจารย์ธีรยุทธ เวชเจริญยิ่ง