โอวาทอ.ออย
บันทึกรุ่งอรุณ,  โรงเรียนมัธยม,  โรงเรียนรุ่งอรุณ

โอวาทสำหรับนักเรียนมัธยม เนื่องในวันเปิดภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๖

โอวาทอ.ออย

โอวาทสำหรับนักเรียนมัธยม เนื่องในวันเปิดภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๖
รศ. ประภาภัทร นิยม   ครูใหญ่โรงเรียนมัธยม

          

เรามาโรงเรียนเพื่อมาค้นหาศักยภาพของเรา มาพัฒนาตัวเรา ร่างกายเราต้องมีการพัฒนา ถ้าร่างกายไม่สมบูรณ์ ร่างกายก็จะเจ็บป่วย อ่อนแอเหมือนเราอยู่บ้านนอนตื่นบ่ายสองโมง โอกาสที่ปอดเราจะได้รับออกซิเจนแต่เช้าก็มีน้อย เราเริ่มอ่อนแอทางกายและใจโดยไม่รู้ตัว

นักเรียนทั้งหลายมีชีวิตอย่างดี เป็นครอบครัวที่มีอันจะกิน เพราะฉะนั้นจะอ่อนแอ เมื่อเทียบกับเด็กที่มาจากครอบครัวยากจน ต้องดิ้นรนทำมาหากินและช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน พวกเรานั้นอ่อนแอทั้งกายและใจ จึงต้องมาฝึกหัดให้สมบูรณ์ขึ้นทั้งพลังกายและใจ เราจะเป็นมนุษย์ที่ง่อยไม่ได้ ถึงเราจะเกิดมาสบาย มีโอกาสดีกว่าคนอื่น เราจะใช้โอกาสนั้นเพื่อให้เราง่อยลงไปอีกไม่ได้ เราต้องใช้โอกาสนั่นเพื่อมาพัฒนาตัวเราให้ดีขึ้น ให้สมบูรณ์ขึ้น และโรงเรียนนี้ไม่เหมือนกับโรงเรียนอื่น คือ เราแสวงหาความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ในตัวของทุกคน ตอนนี้เราอาจจะเป็นคนธรรมดาที่ไม่ค่อยแข็งแรงสมบูรณ์ แต่เราจะมีโอกาสมาค้นหาความสมบูรณ์แห่งความเป็นมนุษย์ที่เราภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีของเราได้ แต่ละคนมีศักดิ์ศรีที่จะเรียนรู้ที่จะยืนอยู่อย่างเป็นมนุษย์ที่ภาคภูมิใจในตัวเอง ในคุณค่าความดีของตัวเองได้ เราจึงต้องมาโรงเรียนถ้าใครคิดว่าสิ่งนี้คุ้มค่าก็จงมาโรงเรียนเถิด แต่ถ้าใครคิดว่าฉันอยากง่อย ฉันอยากอยู่บ้านสบายๆ เป็นเด็กคุณหนูไปเรื่อยๆ ก็กลับไปอยู่บ้านเถิด ไม่ต้องมา ถ้าจะมาเราก็ต้องมาด้วยการที่รู้ด้วยใจว่าเรามาทำไม

เราจะไม่ถือว่าคุณเป็นเด็กน้อย คุณครูทั้งหลายจะไม่เรียกคุณว่า หนู เด็กๆ หรือลูก เราจะไม่ใช้สรรพนามอย่างนี้กับคุณ คุณครูมัธยมจะเรียกว่า นักเรียน หรือคุณ เพราะเราถือว่าเราให้เกียรติในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของคุณอยู่ ซึ่งคุณมีเท่าๆกับเรา แต่ถ้าหากเมื่อใดก็ตามที่คุณลดค่าของตัวเองลงนั่น   ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราก็จะเริ่มปฏิบัติกับคุณใหม่ หรือเราอาจจะเชิญให้คุณกลับไปอยู่บ้านเถิด อย่ามาโรงเรียนเลย อันนี้เป็นสิ่งที่อยากจะให้คุณตั้งหลักใจของคุณให้ดีว่า คุณมาโรงเรียนทำไม

และรุ่นพี่ที่จบมัธยม ๖ จากโรงเรียนรุ่งอรุณไปแล้วในปีนี้ และสอบเข้าในระดับอุดมศึกษาหรือรุ่นก่อน ๆ ก็ตาม เขาก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่าเขามีศักยภาพเต็มที่ บางคนเขาก็ไม่ได้เรียนพิเศษอะไรมากมายก็เข้ามหาวิทยาลัยได้ แอดมิชชั่นเขาก็ได้ หรือจะสอบตรงก็ทำได้ และสามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้ในคณะดี ๆ ที่เป็นที่ต้องการของคนทั่วไป นักเรียนเราเลือกได้ เลือกที่จะไปเรียนอะไรตามที่ตัวเองถนัดและปรารถนา ในเมื่อเราพบศักยภาพเราเมื่อไร เราก็จะถึงโอกาสเป็นผู้เลือกได้ เลือกโอกาสให้ตัวเองได้ เลือกหนทางชีวิตให้ตัวเองได้ เขาพิสูจน์ให้เราเห็นแล้วทุกรุ่น รุ่งอรุณมีนักเรียนแต่ละห้องไม่มากนัก เราจึงเรียนด้วยระบบที่เรียกว่า Inquiry Study ให้นักเรียนพยายามเรียนรู้ด้วยตนเองให้มากที่สุด คุณครูจะสอนให้น้อย ถึงแม้คุณครูจะมีความรู้ แต่คุณครูจะไม่บอกไปก่อนถ้าหากว่านักเรียนไม่พร้อมที่จะเรียนรู้ คุณครูจะมีหน้าที่ในการ สร้างสถานการณ์หรือหาสถานการณ์ที่จะเป็นการกระตุ้นแรงบันดาลใจให้คุณอยากที่จะเรียนรู้ ให้คุณได้เผชิญด้วยตัวคุณเอง และหลังจากนั้นก็จะหาโจทย์ที่ท้าทายให้คุณอยากค้นคว้าหาความรู้ และส่วนที่เหลือคือการใช้ศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง มันเป็นหน้าที่ของคุณ คุณจะได้รู้หน้าที่ของตัวเองว่าคุณต้องทำอะไร เพราะฉะนั้นคุณครูจะไม่ได้พร้อมที่จะมาถึงก็เทความรู้ใส่ปาก ใส่สมองคุณ ไม่ใช่อีกต่อไป อย่าหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น ไม่มีบรรยากาศการเรียนเช่นนั้น นักเรียนต้องขวยขวาย ถ้านักเรียนไม่ได้แสดงท่าทางที่อยากเรียน อยากรู้ คุณครูก็จะไม่สอน คุณครูเราก็จะพยายามเตรียมทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความรู้ หรือว่าวิชาการ กระบวนการสื่อสิ่งต่าง ๆ ที่จะให้คุณได้มีประสบการณ์ด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นส่วนที่เหลือที่คุณต้องทำ คือ ดึงศักยภาพที่คุณมีอยู่ ซึ่งคุณเองก็ได้พิสูจน์ตัวเองมาแล้ว

ใน ม.๑ ปีที่แล้วเขาได้พิสูจน์ตัวเองว่าเขาทำได้ จัดเวทีเสวนาเชิญผู้ใหญ่ คนข้างนอกมาพูดคุยเรื่องที่เป็นสาระ เป็นประโยชน์ในงานรวมพลคนรักษ์กรุงเทพฯ  อันนั้นคือการเรียนรู้ด้วยตัวเอง หรือ ม.๒ ปีที่แล้ว ได้พิสูจน์ตัวเองด้วยการทำงานชิ้นใหญ่ ๆ ทำละคร ได้เรียนรู้ปรับเปลี่ยนตัวเองให้มีวุฒิภาวะมากขึ้น อย่างที่คุณครูทั้งหลายได้ประจักษ์แก่สายตา ก็ยอมรับคุณในความสามารถตรงนี้  และม.๓ ปีที่แล้ว ได้ทำงานที่ค่อนข้างหนักและเป็นปัญหาที่สำคัญของบ้านเมือง เช่น โครงการพิพิธภัณฑ์ที่ขุนยวม เป็นการทำให้คนอื่นมากขึ้น เราก็มีความสำเร็จที่เราได้ผ่านมาแล้วด้วยการเรียนรู้ด้วยตัวเราเอง เพราะฉะนั้นปีนี้เราก็จะดำเนินตามรอยนั้นต่อไป

นักเรียนก็ต้องมีความอดทนดูแลตัวคุณเองให้ได้ รู้เป้าหมายในการเรียนรู้ของคุณเอง รู้แน่อยู่แก่ใจว่าเรามาทำไม  เราอย่าทิ้งขว้างเวลาที่อยู่ที่โรงเรียนให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ โดยที่เราไม่ได้เรียนอะไรทุกสิ่งทุกอย่างที่ดูเหมือนว่าจะเป็นกิจกรรมแล้วสนุกสนานอย่างเดียว ทุกคนพยายามสังเกตพยายาม “เอ๊ะ” ว่าเราเรียนอะไรอยู่ และพยายาม “อ้อ” ให้ชัดว่า อ้อเราเรียน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ และก็ “อ๋อ” ต้องเข้าใจอย่างนี้ ตรงนี้เป็นเรื่องที่นักเรียนทำได้ อาจารย์เชื่อมั่นว่านักเรียนทำได้ทุกคน บางที่จะเก่งกว่าครูด้วยซ้ำไปในการเรียนรู้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรา  คุณครูนั้นบางทีคิดว่าตัวเองรู้แล้วก็เลยไม่ได้อยากที่จะเรียนรู้อีก และลืมที่จะรู้เพิ่มเติมอีก แต่ของเรายังเป็นเด็ก และเรายังมีชีวิตชีวา เราพร้อมที่จะรู้อะไรก็แล้วแต่ที่ผ่านเข้ามาเป็นประสบการณ์ชีวิตของเราในช่วงนี้   ก็ขอให้นักเรียนทุกคนได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ คุณครูก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ของครูอย่างเต็มที่

เพราะฉะนั้นผลการเรียนทั้งหลายที่จะดีหรือไม่ดี อาจารย์จะอวยพรหรือไม่อวยพร  ถ้าหากว่าทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ อาจารย์ว่าผลการเรียนหรือผลการพัฒนาตัวเองนั้นเกิดขึ้นแน่นอน ขอให้พวกเราเข้าใจตามนี้ อยู่กันอย่างพี่น้อง เคารพคุณครูในฐานะที่คุณครูนั้นเดินนำหน้าเรา และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเราต่อไป

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.